GETTING MY เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น TO WORK

Getting My เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น To Work

Getting My เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น To Work

Blog Article

อธิบายสิ่งที่ไม่สะดวกจะรับหรือกินไม่ได้

การลงทุนเพื่อการศึกษาในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีค่าครองชีพสูงกว่าประเทศไทยเรามาก แน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องใช้ทุนทรัพย์พอสมควร แต่สิ่งที่จะได้มาคือความรู้ประสบการณ์ และเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ที่เมืองไทย

เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คและส่งเอกสารไปญี่ปุ่น

ชีวิตนักเรียนในญี่ปุ่น กับการใช้เงินอย่างประหยัด

ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิต (ไม่รวมค่าหอพัก )

หมายเหตุ : วิชาเลือก อาจจะมีค่าเล่าเรียนเพิ่มเติม

หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง

บอกความปรารถนาของตนเกี่ยวกับสิ่งที่อยากลองทำ

ทางเราไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความทั้งหมดไปลงในแหล่งอื่น แต่อนุญาตให้นำรูปภาพหรือข้อความบางส่วนไปอ้างอิงได้ โดยต้องทำลิงก์ระบุแหล่งที่มากลับมายังบทความนั้นๆ ทุกครั้ง และห้ามลบโลโก้หรือดัดแปลง แก้ไขรูปภาพ และหากนำไปใช้เพื่อการขายสินค้า จะต้องได้รับอนุญาตจากทางเราเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่แฝงเอาไว้ด้วยวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมมากมาย นำมาซึ่งการเรียกใช้คำศัพท์ต่างๆ ซึ่งหากเข้าใจวัฒนธรรมก็จะสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างถูกต้องและตรงสถานการณ์มากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้การเรียนรู้วัฒนธรรมทางสังคมก็จะช่วยให้มีชั้นเชิงในการใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ดีขึ้น เช่น การใช้คำสุภาพกับผู้อาวุโส การตอบโต้กันในรูปแบบประโยคที่เห็นซ้ำๆ บ่อยๆ เราแนะนำให้เรียนรู้มารยาททางสังคมจากสังคมปัจจุบันบวกกับวัฒนธรรมที่มีมาแต่ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นค่ะ จะทำให้เราเข้าใจที่มาและธรรมชาติของภาษามาขึ้น เช่น เรียนภาษาที่ญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นจะไม่พูดว่า “ขอบคุณ” เมื่อมีคนชม แต่จะตอบด้วยความถ่อมตัว อย่างเช่น “ไม่เลย” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก” เป็นต้น

ถามว่าจะใช้เวลาเท่าไรในการทำอะไรบางอย่าง

ส่วนตัวแอดมิน เวลาอยู่ในห้องเรียนก็พูดภาษาแบบนักเรียนพูดค่ะ อาจารย์จะปรับระดับการพูดโดยให้ใช้ระดับภาษาและคำศัพท์ง่ายๆ แต่บังเอิญว่าเราสนิทกับคนญี่ปุ่นในที่ทำงานพิเศษ ซึ่งเป็นผู้หญิงและอายุมากกว่า ทำให้เราสามารถใช้ภาษาพูดกับผู้ใหญ่ได้อย่างไม่เคอะเขิน และมีสติอยู่เสมอว่าให้ใช้รูปสุภาพ อีกทั้งยังสามารถฟังภาษาญี่ปุ่นระดับรัวเร็วของคนฝั่งเกาะโทโฮคุได้ (คนญี่ปุ่นภาคนี้พูดเร็วมาก) ส่วนเพื่อนแอดมินเป็นผู้หญิงมีนิสัยแมนๆ คลุกคลีกับชายฉกรรจ์ชาวญี่ปุ่นจนสนิทสนมกลมเกลียว ปัจจุบันก็ยังถูกเจ้านายแซวว่าเหมือนคุยกับเด็กผู้ชายทุกครั้ง (ควรจะดีใจมั้ย ฮ่าๆ) แต่ก่อนจะถึงระดับนั้นได้ก็ลองหาเพื่อนที่พูดคุยได้กันให้เจอก่อนค่ะ ใช้ภาษาง่ายๆ ตามหลักการ แล้วค่อยๆ พัฒนา เมื่อเรียนไปถึงระดับหนึ่งแล้ว เราจะแยกระดับภาษาได้โดยไม่ต้องท่องจำและพูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติเลยค่ะ

บอกให้ทราบถึงเรื่องที่กำลังทำขณะนี้

ร้องเพลงด้วยกันบ้าง เต้นด้วยกันบ้างค่ะ

Report this page